ดาวน์โหลดวีดีโอคลิปไฮไลท์การแข่งขัน คลิ๊ก!!
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 69,522 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวลา 02.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2549
ผู้ตัดสิน เกรแฮม โพลล์
รุด ทำประตูชัยฉลองการกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง
สถิติจำนวนผู้เข้าชมสูงสุดในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งในนัดนี้ ซึ่งรุด ฟาน นิสเตลรอย ได้กลับมาเป็นตัวจริงและทำประตูโทนให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะเวสต์ แฮม ไปได้ 1-0 เป็นประตูที่ 149 ของเขาที่ทำให้กับสโมสร ชัยชนะในนัดนี้ทำให้ปิศาจแดง นำห่างลิเวอร์พูล 5 คะแนน และตามหลังเชลซี 9 คะแนน
ดาวยิงดัตช์แมนทำประตูได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก เป็นประตูตัดสินชัยชนะในนัดนี้ต่อหน้ากองเชียร์ 69,522 คน โดยฟาน นิสเตลรอย เป็น 1 ใน 5 ตำแหน่งที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปลี่ยนแปลงทีมจากชุดที่เอาชนะเบอร์มิงแฮม 3-0 เมื่อวันอาทิตย์
รุด ซึ่งเป็นเพียงตัวสำรองใน 5 นัดหลังสุดได้กลับมาเป็นตัวจริงร่วมกับเคราร์ด ปิเก้, ปาทริซ เอวร่า, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ และปาร์ค จีซุง
ปิเก้ กองหลังวัย 19 ปีซึ่งย้ายมาจากบาร์เซโลน่า เมื่อปี 2004 ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ชิพเป็นนัดแรกในตำแหน่งแบ็คขวาแทนที่ของแกรี่ เนวิลล์ ซึ่งได้รับอาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่าในช่วงฝึกซ้อมเพียง 2 วันหลังจากที่เขาลงเล่นครบ 500 นัดให้กับปิศาจแดง เมื่อวันอาทิตย์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มเกมได้ไม่ดีนักและปล่อยให้แม็ทธิว เอเธอริงตัน มีที่ว่างได้วอลเล่ย์จ่อๆ ข้ามคานออกไปในช่วง 5 นาทีแรกของเกม หลังจากนั้น เอวร่า ใช้เวลาตัดสินใจนานว่าจะจัดการกับบอลที่อยู่ในแดนของตัวเองอย่างไรจนเสียลูกเตะมุม
เวสต์ แฮม มีความแม่นยำในการจ่ายบอลมากกว่าและบุกได้ดีกว่าในช่วงต้นเกม ทีมของอลัน พาร์ดิว ได้ลูกเตะมุมอีกครั้งและดีน แอชตัน ก็น่าจะทำประตูขึ้นนำให้กับเวสต์ แฮม เมื่อเขาได้สัมผัสบอลในจังหวะสุดท้ายจากลูกวอลเล่ย์ระยะ 12 หลาของลิโอเนล สกาโลนี่ แต่บอลออกข้างไป
แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มติดเครื่องเปิดเกมบุกเมื่อพวกเขาถูกปฏิเสธจังหวะที่น่าจะได้ลูกจุดโทษ โรนัลโด้ และเฟล็ตเชอร์ ช่วยกันเล่นทางฝั่งขวาก่อนที่จะเปิดบอลเข้ากลางให้กับรูนี่ย์ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษหลอกล่อกองหลังแล้วไหลบอลต่อให้กับโรนัลโด้ ที่วิ่งเติมขึ้นมา แต่ปีกจอมสับล้มลงในกรอบเขตโทษก่อนที่จะได้สับไกยิง จังหวะปะทะกับแดเนียล แก็บบิดอน ไม่ชัดเจนทำให้เกรแฮม โพลล์ ผู้ตัดสินโบกมือให้เล่นต่อไปท่ามกลางการประท้วงของนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โอกาสครั้งต่อมาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาจากปีกชาวโปรตุเกสหลังจากเกมผ่านไปได้ 20 นาที เขาถูกไนเจล รีโอ-โคเกอร์ กองกลางของเวสต์ แฮม สกัดล้มลงที่ระยะ 35 หลาหน้าปากประตู และโรนัลโด้ ก็ลุกขึ้นมาซัดลูกฟรีคิกได้ดีทำให้ชาก้า ฮิสล็อป รับหลุดแต่ยังตะครุบบอลเอาไว้ได้
อีก 5 นาทีต่อมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เกือบจะได้ประตูขึ้นนำ รูนี่ย์ ไหลบอลอย่างมีลุ้นให้กับเฟล็ตเชอร์ ที่วิ่งเติมเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่กองกลางชาวสก็อตยิงเข้าข้างตาข่าย
หลังจากนั้น เกรแฮม โพลล์ ก็มาได้รับอาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่า ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวมาร์ติน แอ็ตกินสัน ผู้ตัดสินที่ 4 ลงมาทำหน้าที่แทน
เหลือเวลาในครึ่งแรก 10 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสทำประตูขึ้นนำ 2 ครั้งจากกองหลัง 2 คน โอกาสแรกจากปิเก้ ยิงไกลระยะ 25 หลา บอลโค้งพุ่งเข้าหาสามเหลี่ยมบน แต่ฮิสล็อป พุ่งสุดตัวปัดข้ามคานออกไปได้ และจากลูกเตะมุม เนมานย่า วิดิช ได้ยิงเรียดในกรอบเขตโทษ บอลไปชนโคนเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ครึ่งแรกเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ยังไม่มีทีท่าว่าจะทำประตูกันได้ นักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะคิดว่าโชคไม่เข้าข้างซะแล้ว แต่ในที่สุดประตูขึ้นนำก็มาถึงจนได้จากยอดดาวยิงนามว่า รุด ฟาน นิสเตลรอย
เฟล็ตเชอร์ โหม่งบอลไปให้กับปาร์ค จีซุง ที่ริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา กองกลางชาวเกาหลีใต้พาบอลหลอกล่อลุยหลบพอล คอนเชสกี้ ไปถึงเส้นหลังก่อนที่จะเปิดหักกลับมาที่หน้าประตูให้กับฟาน นิสเตลรอย ตวัดยิงเรียดด้วยเท้าขวาระยะประมาณ 8 หลาเข้าประตูไปทางเสาไกล เป็นประตูที่ 149 ที่เขาทำให้กับปิศาจแดง และทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก ก่อนที่จะพักครึ่งเวลาไปด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งเวลาหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้ในนาทีที่ 57 เมื่อโรนัลโด้ จิ้มบอลเข้าประตูไปจากลูกเปิดของฟาน นิสเตลรอย ซึ่งมาจากการปั้นเกมขึ้นมาของรูนี่ย์ และปาร์ค แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงขึ้นมาก่อน เนื่องจากจังหวะที่รุด เปิดบอลไปให้นั้นบอลออกเส้นหลังไปก่อนแล้ว
ครึ่งหลังเล่นกันค่อนข้างอึดอัด เวสต์ แฮม ไม่สามารถเจาะแนวรับอันแข็งแกร่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าไปได้ และเจ้าถิ่นก็พยายามทำประตูเพิ่มให้ได้แต่ยังไม่สำเร็จ
ก่อนหมดเวลา 15 นาที รูนี่ย์ เกือบจะทำประตูมหัศจรรย์ได้ โรนัลโด้ พาบอลไปถึงเส้นหลังก่อนที่จะหักกลับมาให้กับรูนี่ย์ ที่ระยะ 12 หลา ดาวยิงทีมชาติอังกฤษชิพบอลข้ามหัวฮิสล็อป ไปแล้วแต่บอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย ฟาน นิสเตลรอย ตามเข้าไปซ้ำด้วยการตีลังกายิงแต่ฮิสล็อป ป้องกันเอาไว้ได้อย่างสบาย
เท็ดดี้ เชอริงแฮม ลงสนามมาเป็นตัวสำรองให้กับเวสต์ แฮม ในช่วงท้ายเกม เขายังคงได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากกองเชียร์ในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เพียง 4 วันก่อนจะถึงวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 40 ปีของเขา แต่ไม่มีเหตุการณ์ทีเด็ดช่วงท้ายเกมสำหรับอดีตกองหน้าของปิศาจแดง รายนี้
ครึ่งหลังยังคงเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พยายามทำประตูเพิ่ม ไรอัน กิ๊กส์ และหลุยส์ ซาฮา ลงมาเป็นตัวสำรองและมีโอกาสยิงทั้งคู่แต่บอลก็ออกข้างเสาไปหมด แต่ประตูเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับชัยชนะ หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือนชนะเวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ไปได้ 1-0
มาถึงตอนนี้ ปิศาจแดง ชนะเกมเหย้า 10 นัดหลังสุดและเกมลีก 7 นัดหลังสุด ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคงรักษาตำแหน่งรองจ่าฝูงของพรีเมียร์ชิพเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยมีคะแนนมากกว่าทีมอันดับที่ 3 อย่างลิเวอร์พูล 5 คะแนน และลงเล่นน้อยกว่า 1 นัด (บรรยายเกมโดย DaKinG)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 19
ปาทริซ เอวร่า 3
ริโฮ เฟอร์ดินานด์ 5
จอห์น โอเชีย 22
เคราร์ด ปิเก้ 28
เนมานย่า วิดิช 15
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
ปาร์ค จีซุง 13
เวย์น รูนี่ย์ 8
รุด ฟาน นิสเตลรอย 10 ( น. 45)
สำรอง
ทิม โฮเวิร์ด 1
มิเกล ซิลแวสตร์ 27 น. 78 ปาทริซ เอวร่า 3
ไรอัน กิ๊กส์ 11 น. 69 ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
จูเซ็ปเป้ รอสซี่ 42
หลุยส์ ซาฮา 9 น. 87 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด
ชาก้า ฮิสล็อป 34
เจมส์ คอลลินส์ 19
แดเนียล แก็บบิดอน 4
พอล คอนเชสกี้ย์ 3
เฮย์เด้น มูลลินส์ 17
ยอสซี่ เบนายูน 15
แม็ทธิว เอเธอริงตัน 11
ไนเจล เรโอ-โคเกอร์ 20
ไลโอเนล สคาโลนี่ 2
ดีน แอชตัน 9
มาร์ลอน แฮร์วูด 10
สำรอง
เจมส์ วอล์คเกอร์ 23
แอนตัน เฟอร์ดินานด์ 5 น. 67 ไลโอเนล สคาโลนี่ 2
คาร์ล เฟล็ตเชอร์ 6
เทดดี้ เชอริงแฮม 8 น. 80 ดีน แอชตัน 9
บ็อบบี้ ซาโมร่า 25 น. 80 แม็ทธิว เอเธอริงตัน 11
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 1, ยิงตรงกรอบ 8, ยิงหลุดกรอบ 7, โดนบล็อค 5, เตะมุม 3, ฟาวล์ 10, ล้ำหน้า 7, การครองบอล 51.4%
เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ยิงตรงกรอบ 3, ยิงหลุดกรอบ 5, โดนบล็อค 1, เตะมุม 6, ฟาวล์ 13, ล้ำหน้า 1, การครองบอล 48.6%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, จอห์น โอเชีย 7, เนมานย่า วิดิช 7, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7, ปาทริซ เอวร่า 5, เคราร์ด ปิเก้ 7, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 8, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 6, ปาร์ค จีซุง 7, รุด ฟาน นิสเตลรอย 7, เวย์น รูนี่ย์ 7, มิเกล ซิลแวสตร์ (สำรอง) 6, ไรอัน กิ๊กส์ (สำรอง) 6, หลุยส์ ซาฮา (สำรอง) 6
เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ชาก้า ฮิสล็อป 5, เจมส์ คอลลินส์ 5, แดเนียล แก็บบิดอน 8, พอล คอนเชสกี้ย์ 5, เฮย์เด้น มูลลินส์ 6, ไลโอเนล สคาโลนี่ 5, ยอสซี่ เบนายูน 7, ไนเจล เรโอ-โคเกอร์ 5, แม็ทธิว เอเธอริงตัน 6, ดีน แอชตัน 5, มาร์ลอน แฮร์วูด 5, แอนตัน เฟอร์ดินานด์ (สำรอง) 7, เทดดี้ เชอริงแฮม (สำรอง) 5, บ็อบบี้ ซาโมร่า (สำรอง) 5
Por